เมนู

เกิดขึ้นชักนำไปแล้ว เหมือนสัญญาวิปัลลาส. บทว่า ขิตฺตจิตฺตา ความว่า
ผู้ประกอบด้วยจิตซัดส่ายที่กำลังเกิดขึ้นเหมือนสัญญาวิปัลลาสและทิฏฐิวิปัลลาส.
บทว่า วิสญฺญิโน นั่นเป็นเพียงเทศนา. อธิบายว่า เป็นสัญญาจิตและทิฏฐิ
อันวิปริต. บทว่า เต โยคยุตฺตา มารสฺส ความว่า สัตว์เหล่านั้นชื่อว่า
ประกอบอยู่ในเครื่องผูกของมาร. บทว่า อโยคกฺเขมิโน ความว่า เป็นคน
ไม่ถึงความเกษมจากโยคะ คือพระนิพพาน. บทว่า สตฺตา คือบุคคล
ทั้งหลาย. บทว่า พุทฺธา คือผู้ตรัสรู้สัจจะ 4. บทว่า อิมํ ธมฺมํ คือ
สัจจธรรม 4. บทว่า สจิตฺตํ ปจฺจลทฺธา ได้แก่ กลับได้ความคิดของ
ตนเอง. บทว่า อนิจฺจโต ทกฺขุํ ได้แก่ ได้เห็นโดยความเป็นของไม่เที่ยง
จริง. บทว่า อสุภตทฺทสํ ได้แก่ ได้เห็นโดยความเป็นของไม่งามจริง.
บทว่า สมฺมาทิฏฺฐิสมาทานา ได้แก่ ผู้ยึดถือสัมมาทัสสนะ. บทว่า สพฺพํ
ทุกฺขํ อุปจฺจคุํ
ความว่า ล่วงพ้นวัฏฏทุกข์ทั้งสิ้นได้.
จบอรรถกถาวิปัลลาสสูตรที่ 9

10. อุปกิเลสสูตร


ว่าด้วยเครื่องเศร้าหมอง 4 อย่าง


[50] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุปกิเลส (เครื่องมัวหมอง) แห่ง
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ 4 อย่างนี้ ซึ่งเป็นเหตุให้ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ไม่
สว่างไสวไพโรจน์ อุปกิเลสแห่งดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ 4 อย่างคืออะไรบ้าง
คือ เมฆ 1 หมอก 1 ควันและผงคลี 1 อสุรินทราหู 1 นี้แล อุปกิเลส

แห่งดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ 4 อย่าง ซึ่งเป็นเหตุให้ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ไม่
สว่างไสวไพโรจน์
ภิกษุทั้งหลาย ฉันเดียวกันนั้นแล อุปกิเลสแห่งสมณพราหมณ์ทั้งหลาย
ก็มี 4 ประการ ซึ่งเป็นเหตุให้สมณพราหมณ์ทั้งหลายไม่งามสง่า สุกใส
รุ่งเรื่อง อุปกิเลสของสมณพราหมณ์ 4 ประการ คืออะไรบ้าง คือ
มีอยู่ สมณพราหมณ์บางเหล่าดื่มสุราเมรัย ไม่งดเว้นจากการดื่ม
สุราเมรัย การดื่มสุราเมรัยเป็นอุปกิเลสแห่งสมณพราหมณ์ข้อ 1 ซึ่งเป็นเหตุ
ให้สมณพราหมณ์ไม่งามสง่าสุกใสรุ่งเรือง
มีอยู่ สมณพราหมณ์บางเหล่าเสพเมถุนธรรม ไม่งดเว้นจากเมถุน-
ธรรม การเสพเมถุนธรรมนี้เป็นอุปกิเลสแห่งสมณพราหมณ์ข้อ 2 ซึ่งเป็นเหตุ
ให้สมณพราหมณ์ไม่งามสง่าสุกใสรุ่งเรือง.
มีอยู่ สมณพราหมณ์บางเหล่ายินดีทองและเงิน ไม่งดเว้นจากการ
รับทองและเงิน ความยินดีรับทองและเงินนี้เป็นอุปกิเลสแห่งสมณพราหมณ์
ข้อ 3 ซึ่งเป็นเหตุให้สมณพราหมณ์ไม่งามสง่าสุกใสรุ่งเรือง
มีอยู่ สมณพราหมณ์บางเหล่าเลี้ยงชีวิตโดยมิจฉาอาชีวะ ไม่งดเว้น
จากมิจฉาอาชีวะ การเลี้ยงชีวิตโดยมิจฉาอาชีวะนี้เป็นอุปกิเลสแห่งสมณพราหมณ์
ข้อ 4 ซึ่งเป็นเหตุให้สมณพราหมณ์ไม่งามสง่าสุกใสรุ่งเรือง
ภิกษุทั้งหลาย นี้แล อุปกิเลสแห่งสมณพราหมณ์ 4 ประการ ซึ่ง
เป็นเหตุให้สมณพราหมณ์ไม่งามสง่าสุกใสรุ่งเรือง.
สมณพราหมณ์บางเหล่าผู้มีราคะโท-
สะปกคลุมแล้ว เป็นคนอันอวิชชาปกปิด
แล้ว เพลินยินดีในปิยรูป (สิ่งที่รัก) ดื่ม

สุราเมรัย บางเหล่าเสพเมถุน บางเหล่า
โฉดเขลา ยินดีเงินและทอง บางเหล่า
เลี้ยงชีพโดยมิจฉาอาชีวะ.
บาปธรรมเหล่านั้น พระพุทธเจ้า
เผ่าพันธุ์พระอาทิตย์ ตรัสว่าเป็นอุปกิเลส
ซึ่งเป็นเหตุให้สมณพราหมณ์เหล่านั้นปรา-
กฏว่าเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ มีราคี ไม่งามสง่า
สุกใส.
สมณพราหมณ์เหล่านั้นอันความมืด
(คืออวิชชา) หุ้มห่อแล้ว ตกเป็นทาสตัณหา
ถูกตัณหาจูงไป บำรุงเลี้ยงอัตภาพร้ายเข้า
ไว้ต้องไปเกิดอีก.

จบอุปกิเลสสูตรที่ 10
จบโรหิตัสสวรรคที่ 5

อรรถกถาอุปกิเลสสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในอุปกิเลสสูตรที่ 10 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อุปกฺกิเลสา ความว่า ชื่อว่าอุปกิเลส (เครื่องเศร้าหมอง)
เพราะทำความมัวหมอง ไม่ให้ผ่องใส. บทว่า มหิยา คือ หมอก. บทว่า
ธูมรโช ได้แก่ ควันและผงคลี. บทว่า ราหุ ความว่า หมอก ควัน และ
ผงคลี ทั้งสามข้างต้น เป็นอุปกิเลสที่ไม่ถึงดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ ส่วนราหู
พึงทราบว่า ท่านกล่าวด้วยสามารถอุปกิเลสที่ถึงดวงจันทร์ดวงอาทิตย์. บทว่า